7/31/2556

คำขอโทษ 1001(เฉพาะเนื้อเรื่อง)

                 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว โลกของเรายังไม่มีคนอย่างเราๆ อาศัยอยู่หรอก โลกในสมัยนั้นเป็นโลกของเจ้าคำขอโทษและเจ้าให้อภัย หน้าตาของเจ้าคำขอโทษเหมือนเมฆผืนใหญ่ ส่วนหน้าตาของเจ้าให้อภัยเป็นหัวใจดวงโต…

                จะว่าไปมันก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากโลกในสมัยนี้นักหรอก นอกจากที่ว่ามันไม่มีตึกรามบ้านช่อง ไม่มีสิงห์สาราสัตว์ และไม่มีเรา …เมืองของเจ้าคำขอโทษและเจ้าให้อภัยจึงอยู่ในโลกที่มีแต่ต้นไม้ใบหญ้า ทะเล ภูเขา สายลม สายฝน และแสงแดด…

                แต่ถึงจะมีกันอยู่แค่นั้น เจ้าคำขอโทษกับเจ้าให้อภัยก็ไม่เคยเจอกันหรอกนะ บ้านเมืองของมันถูกแยกให้ห่างออกจากกันด้วยแม่น้ำสายใหญ่ เมืองของเจ้าคำขอโทษอยู่ทางซ้ายของโลก ส่วนเมืองของเจ้าให้อภัยก็อยู่ทางขวา เจ้าคำขอโทษกับเจ้าให้อภัยจึงเห็นหน้ากันอยู่ลิบๆ และต่างก็คิดจินตนาการถึงความเป็นไปของอีกฝ่าย โดยไม่มีใครคิดที่จะข้ามแม่น้ำอันเชี่ยวกรากไปหากัน

                อืมม์… จะว่าไม่มีใครซะทีเดียวก็คงจะไม่ ครั้งหนึ่งในยุคบุกเบิก เจ้าคำขอโทษที่ 1 ผู้เป็นต้นตระกูลของคำขอโทษทั้งหลาย ได้เคยพยายามว่ายน้ำข้ามฝั่งไปหาเจ้าให้อภัย ด้วยว่าตอนนั้นมันเหงา และอยากจะมีเพื่อนเล่น…

                วันนั้น เจ้าคำขอโทษที่ 1 เดินมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ

                “ น่ากลัวเหมือนกันนะนี่ ไหลเชี่ยวเชียวแฮะ …แต่เป็นไงเป็นกัน ยังไงซะ วันนี้ฉันก็ต้องข้ามไปฝั่งโน้นให้ได้ ! ” เจ้าคำขอโทษที่ 1 พูดกับตัวเองในใจ จุดหมายของสายตาเพ่งไปที่เจ้าให้อภัยที่ยืนไกลลิบๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม

                “ ซูม !!! ” เสียงเจ้าคำขอโทษที่ 1 กระโดดลงแม่น้ำ และพยายามดำลงให้ลึกเพื่อหนีกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก

               “ บุ๋…ม   บุ๋มๆ  ”  ถึงจุดกึ่งกลางของแม่น้ำแล้ว

                “ ค่อกๆ  แอ่…กๆ ” เกือบถึงอีกฝั่งแล้ว เจ้าคำขอโทษที่ 1 โผล่ขึ้นผิวน้ำ สำลัก และตะเกียกตะกายหาที่เกาะเกี่ยว

                  …แต่…
   
               เจ้าคำขอโทษทำไม่สำเร็จ สายน้ำแรงเกินกว่าจะทานไหว

                อันที่จริงเจ้าคำขอโทษอาจจะทำสำเร็จก็ได้ ถ้าเจ้าให้อภัยว่ายน้ำมาจากฝั่งของตัวเองสักหน่อย และคว้ามือเจ้าคำขอโทษไว้… ถ้าเจ้าให้อภัยก้าวขาลงแม่น้ำ แทนที่จะยืนมองอย่างเฉยชา โลกอาจไม่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง และเจ้าคำขอโทษกับเจ้าให้อภัยคงได้เป็นเพื่อนกัน…

                เวลาผ่านไปจนถึงสมัยของเจ้าคำขอโทษที่ 1000… แม่น้ำยังคงเชี่ยวกรากเช่นในสมัยเจ้าคำขอโทษที่ 1 …สถานการณ์ไม่เคยเปลี่ยน… โลกยังคงถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง แม่น้ำยังคงขวางกั้น แต่เจ้าคำขอโทษที่ 1000 ไม่คิดเช่นนั้น มันคิดว่า “สิ่งที่คนบอกต่อๆกันมาว่าเป็นไปไม่ได้… ใช่ว่ามันจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป… สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ต้องเป็นไปได้สักวัน ” แต่ไม่มีใครคิดเช่นนั้น ใครๆ ต่างคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องคบหากับเจ้าให้อภัย เจ้าคำขอโทษที่ 1000 จึงกลายเป็นคำขอโทษที่นอกคอก…

                …แต่ก็เป็นคำขอโทษที่ทุกคนจะต้องจดจำไปชั่วชีวิต…

                นั่นก็เพราะ… เจ้าคำขอโทษที่ 1000 พยายามทำในสิ่งที่ใครๆ บอกมันว่าเป็นไปไม่ได้…

                “ ซูม !! ” ณ ริมฝั่งแม่น้ำ คำขอโทษนอกคอกกระโจนลงแม่น้ำด้วยความมุ่งมั่น มันว่ายน้ำข้ามฝั่งอย่างที่ต้นตระกูลเคยได้ทำ

               ว่าย ว่าย และว่าย อย่างไม่ลดละ    

                …กระทั่งใกล้จะถึงอีกฝั่ง ความอ่อนล้าและกระแสน้ำก็ฉุดร่างให้ร่วงลงสู่ก้นแม่น้ำ  “ บุ๋มๆ บุ๋…ม  อ๊อกๆ  ” เจ้าคำขอโทษที่ 1000 สำลักน้ำ และตะเกียกตะกาย

               …คงคิดว่ามันจะลอยตามน้ำไปเหมือนเจ้าคำขอโทษที่ 1 ล่ะสิ! ไม่หรอก!! …หลานของเจ้าให้อภัยไม่เฉยชา ขี้กลัว หรือเก็บความรู้สึกเก่งอย่างทวดของมัน เจ้าให้อภัยที่คอยเฝ้าดูอยู่อีกฝั่งจึงกระโดดลงแม่น้ำ และดำผุดดำว่ายเพื่อไปรับตัวของเจ้าคำขอโทษไว้…

                ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าให้อภัย วันนั้นเจ้าคำขอโทษที่ 1000 จึงสามารถข้ามฝั่งสำเร็จ และได้มีเพื่อนใหม่สมใจ ทั้งยังค้นพบอีกว่าเมื่อคำขอโทษอยู่กับให้อภัยแล้ว พลังงานอันสุดวิเศษจะเกิดขึ้น มันเป็นพลังงานสีขาวที่ช่วยให้เนรมิตทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย…

                และมันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะไม่ร่วมกันสร้างสะพานข้ามแม่น้ำร่วมกัน !!!

                ใช้เวลาไม่นาน… หลังจากสร้างสะพานเสร็จ โลกที่ถูกแบ่งเป็นสองก็กลายเป็นหนึ่ง เจ้าคำขอโทษทั้งหลายเดินทางสัญจรผ่านไปผ่านมากับเจ้าให้อภัย

                …โลกทั้งโลกจึงได้เป็นเพื่อนกัน…

               หลายวันผ่านไป เจ้าคำขอโทษที่ 1000 ได้เดินมาเจอกับเจ้าให้อภัยผู้ใจดีอีกครั้งหนึ่งที่กลางสะพาน
               “ ขอโทษนะ ขอโทษที่ให้แบกภาระหนักๆ นี้ …ขอโทษที่ปล่อยให้พยายามฝ่ายเดียวมาตั้งนาน… ขอโทษแทนทวดฉันที่ปล่อยให้คำขอโทษที่ 1 ลอยตามน้ำไปโดยไม่ช่วยอะไร… ขอโทษจริงๆ ”  เจ้าให้อภัยพูดขึ้น

               “ ไม่เป็นไรหรอก ฉันให้อภัยได้เสมอ ก็เธอสอนฉันเดี๋ยวนี้ให้รู้จักการให้อภัย ฉันจะนับคำขอโทษของเธอเป็นคำขอโทษที่ 1001 ต่อจากฉัน ” เจ้าคำขอโทษยิ้ม และเอื้อมมือไปตบไหล่เจ้าให้อภัยเบาๆ…

               ทุกวันนี้ เจ้าคำขอโทษและเจ้าให้อภัยจึงอยู่คู่กันในโลกโดยไม่แยกจากกันไปไหน แม้ว่าหน้าตาของมันจะเปลี่ยนไปจนเราไม่อาจรู้ได้ …และแม้ว่าตึกรามบ้านช่องของพวกเราจะแย่งที่อยู่อาศัยของมันไปเสียหมดสิ้น

            แต่มันก็มีที่อาศัยแห่งใหม่…

               “ …ที่ที่นั้น…อยู่ในจิตใจดีดีของเราทุกคน… ”

..................................................................

อ่านคำขอโทษที่ 1001 ในรูปแบบนิทานภาพ คลิกที่นี่


................................................................................
อ่านภาคต่อ มนุษย์ คน สุดท้าย
คลิกเลยจ้า
มนุษย์คนสุดท้าย (คำขอโทษที่ 1001 ภาคต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น